วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

แผนที่แปลงสัมปทานปิโตรเลียม‏


จะเห็นว่า เชฟรอนได้ในพื้นที่ทับซ้อนหมดทุกแปลงผิดสังเกตุมั้ย
เริ่มจาก สแตนดาดออย แล้วแปลงร่างมาเป็น ยูโนแคล แล้วเป็นเชพรอน
เจ้าของคือ จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ผู้พ่อ ซึ่งก็คือ อเมริกานั้นเอง

ชื่อบริษัท เชฟรอน บล๊อค บี8 32 (ประเทศไทย) จำกัด‏


รายละเอียดนิติบุคคล

ทะเบียนเลขที่ : 0105538104132  (เลขทะเบียนเดิมคือ             2142/2538      )
ประเภท : บริษัทจำกัด วันที่จดทะเบียน : 01/09/2538
สถานะ : คงอยู่ 

1 ชื่อบริษัท เชฟรอน บล๊อค บี8 32 (ประเทศไทย) จำกัด
2 กรรมการบริษัทมี 7 คน ตามรายชื่อดังต่อไปนี้ 

1. นาย โจเซฟ ชาฟิค จาจา 
2. นาย เอ็ดเวิร์ด จอห์น เมเซอร์ 
3. นาย ไพโรจน์ กวียานันท์ 
4. นางสาว ศิริพร ไชยสุต 
5. นาย ไบรอัน เจมส์ เบิร์ค 
6. นาย แอนโทนี จอห์น เคนริค 
7. นาย เดวิด ชาร์ป เบรดี้ /

3 กรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้คือ 
นางประภาวดี โสภณพนิช 
นายชาญ โสภณพนิช
นายเชิดชู โสภณพนิช
นายวินัย วามวาณิชย์ 
นายอรุณ จิรชวาลา กรรมการสองในห้าคนนี้ ลงลายมือชื่อร่วมกันและ   ประทับตราสำคัญของบริษัท/

4 ทุนจดทะเบียน 1,500,000,000.00 บาท


5 ที่ตั้ง 19 อาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า อีสท์ อาคาร 3 ชั้น 5 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

6 บริษัทนี้จดทะเบียนครั้งแรกชื่อ บริษัท เอชเจเอชเค (ประเทศไทย) จำกัด   ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อดังนี้ ครั้งที่ 2 เปลี่ยนเป็น บริษัท โสภณอ่าวไทย จำกัด   เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2539 ครั้งที่ 3 เปลี่ยนเป็น บริษัท พลังโสภณ จำกัด   เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2539 และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น บริษัท เชฟรอน บล๊อค บี8 32   (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2549/


7 นิติบุคคลนี้ได้ส่งงบการเงินปี 2542 2543 2544 2545 2546 2547 2548 2549 2550 2551 2552


8 วัตถุประสงค์ (74213) การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม


วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

ใครวะ "กรกสิวัฒน์" มารู้จักเขากัน ว่าทำไมเขาถึงดัง !!!


WhO? กับ "ม.ล.กรกสิวัฒน์"

ท่ามกลางปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏกายในเวทีสัมนาเกี่ยวกับขุมทรัพย์พลังงานของไทย นั่นคือ ม.ล.กรกสิวัฒน์  เกษมศรี  เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา

ม.ล.กรกสิวัฒน์  เกษมศรี ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร WhO? เล่ม 121 (ประจำวันที่ 1-16 กันยายน 2555) ตอนหนึ่งกล่าวถึงสาเหตุที่คนไทยใช้น้ำมันแพงกว่าสหรัฐถึงลิตรละ 10 บาท
"มีรายงานในเดือนมกราคม ปี 2555 สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศไทยมากถึง 1.2 ล้านบาร์เรล แต่ที่น่าตกใจคือ ราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มของสหรัฐถูกกว่าไทยลิตรละ 10 บาท ที่ผ่านมารัฐบาลมักพูดว่าเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็จริง ถ้าเปรียบเทียบในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าเปรียบเทียบช่วงปี 2551 ตอนนั้นราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงถึง 145 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือ 30 บาทต่อลิตร แต่วันนี้อยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คือราคาประมาณ 20 บาทต่อลิตรเท่านั้น แต่ขายให้เราราคาหน้าปั๊ม 42-43 บาท"

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายสาเหตุที่สามารถนำมาวิเคราะห์ ว่าทำไมประเทศไทยถึงไม่ควรที่จะใช้น้ำมันราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นรายงานประจำปี (Annual Statistical Bulletin 2010/2011) ว่าไทยมีผลผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มโอเปค ซึ่งไทยอยู่อันดับ 5 ชนะโอเปคไป 8 ประเทศ ได้แก่ อิรัก คูเวต โอมาน ไนจีเรีย เวเนซุเอลา ลิเบีย แองโกลา และ เอกวาดอร์

ประเทศไทยยังผลิตน้ำมันติดอันอับ 33 ของโลกจากประเทศที่ผลิตน้ำมันกว่า 200 ประเทศ มูลค่าการส่งออกปี 2551 ถึง 300,000 ล้านบาท

"มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเตือนว่า มาพูดเรื่องนี้ไม่กลัวตายหรือ ผมบอกผู้ใหญ่ท่านไปว่า ไม่มีใครในโลกนี้ไม่กลัวความตาย แต่ว่าสิ่งที่เราต้องทำ เราก็ต้องทำ.. ทุกวันนี้ผมไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง คุณพ่อ คุณแม่ เสียหมดแล้ว ผมจึงเหลือแต่พ่อของแผ่นดิน กับ พระแม่ธรณีที่ผมจะต้องทดแทนคุณ" ม.ล.กรกสิวัฒน์  กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับประวัติของ ม.ล.กรกสิวัฒน์  เกษมศรี เป็นบุตร ม.ร.ว.เกษมศิริพันธ์  เกษมศรี กับ วิภาณี  เกษมศรี ณ อยุธยา มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน

การศึกษา:
จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท ที่ Master of Business Aaministstion (Finance) California State University, USA
ปริญญาโท ศิลปกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข้อมูลจาก เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1058 วันที่ 7 ก.ย. 55



อย่ามาเกรียน กู! ไม่มีสี ไม่แดง ไม่เหลือง ไม่ได้ชอบสีไหนทั้งนั้น แต่ดูที่เนื้อหา เพราะจะแดงจะเหลือง พวกมึงก็ต้องใช้น้ำมันกันอยู่ดี เพราะฉะนั้น วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อย่างเอาอคติการเมืองมาตั้ง ถามหน่อยว่า พวกมึงทั้ง นปช. และ พธม. ไม่อยากให้น้ำมันถูกกันเหรอ หรือโคตรของพวกมึงรวย เลยไม่กระทบ เอาความจริงไป รับรู้ และมาร่วมมือกัน ขอพลัง ขอกำลัง ขอเสียง เรื่องนี้มันจะได้ดัง เรื่องเลวๆแบบนี้ เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

แฉพวกชั่ว โกงกินน้ำมัน ขโมยสมบัติชาติ 3 สำคัญมาก


อันนี้ จัดหนัก และสมบูรณ์แบบที่สุด เอาเป็นว่า มีพ่อแม่ บอกพ่อแม่ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน และบอกต่อๆกัน ความจริงคือความจริง และรถไฟที่ขนน้ำมันดิบนี้ ตัวแอดมิน ก็เห็นผ่านอยู่ทุกวัน (ที่ทำงานอยู่ติดทางรถไฟ) ขนน้ำมันดิบกันสบายใจจริง แต่แอดมินคนเดียว คงไร้แรงกำลัง ต้องการคนที่ทนไม่ได้ กับการกระทำชั่วช้า โกงชาติ ปล้นทรัพย์แผ่นดินกันแบบนี้ ช่วยกันครับ มาช่วยกันเป็นแฟนเวบเพจ Anti Oil Thailand ให้เยอะๆ เสียงเราจะได้ดัง ใครใหญ่ ใครโต ก็ดึงมาช่วยๆกันครับ

ดูความเหี้ยของ ปตท. และ Chevron แม่งเอาแต่โกยๆ โกงทุกอย่าง ปิดสื่อทุกสื่อ ช่อง 3 ไม่เคยเสนอข่าวทั้งๆที่รู้ความจริง เพราะ ปตท. แม่งก็เป็นสปอนเซอร์ให้

เพื่ออนาคต น้ำมันลิตรละ 15 บาท ของพวกเราชาวไทยทุกคน !!! 

แฉพวกชั่ว โกงกินน้ำมัน ขโมยสมบัติชาติ 2


ดูเอากันเองอีก ภาค 2 จะได้ตาสว่างกันเสียที !!!

แฉพวกชั่ว โกงกินน้ำมัน ขโมยสมบัติชาติ 1

พูดมากไปก็เท่านั้น ดูกันเอาเลย ขอให้ดูให้จบ ตั้งใจดู อย่าดูผ่านๆ จะได้รู้ว่า นี่ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ แต่นี่คือสิ่งที่คุณไม่รู้ และถึงรู้ก็ไม่รู้ละเอียดเท่านี้ !!!


ปตท. แมร่งก็คือโจรในชุดสูทดีๆนี่เอง


ผู้เชี่ยวชาญชำแหละโจรปล้นพลังงาน ชี้ชัดไทยส่งออกรายใหญ่แต่คนในชาติกลับจ่ายแพงสุด

"มล.กรกสิวัฒน์" เปิดหลักฐาน ไทยมีแหล่งพลังงานจำนวนมหาศาล ผลิตก๊าซธรรมชาติติดอันดับ 24 ของโลก แซงหน้าหลายประเทศในเอเปค แต่คนในชาติกลับต้องใช้น้ำมันแพงกว่าประเทศอื่น ซัดอย่าอ้างราคาตลาดโลก เพราะถูกลงจากปี 51 มาก แต่ขายหน้าปั๊มกลับไม่ต่าง จี้แก้กฎหมาย เปิดแข่งเสรี - เพิ่มส่วนแบ่งรายได้เข้ารัฐ ด้าน "ผศ.ประสาท" แฉปตท.โกง 2 ต่อ ปล้นค่าภาคหลวง ชี้คนไทยกำลังถูกล้างสมองให้เชื่อง

วันที่ 4 เม.ย. เมื่อเวลา 20.30 น. มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา และ ผศ.ประสาท มีแต้ม นักวิชาการด้านพลังงาน ร่วมเปิดโปงขบวนการปล้นน้ำมันและพลังงานชาติ ในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รับหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ

มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า อยากฝากถึงรัฐบาล ตนไม่ได้มีหน้าที่มาหาคนผิดในเรื่องนี้ แต่อยากหาคนมาทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ประเด็นที่ถกเถียงกันมากคือ ประเทศไทยมีพลังงานหรือเปล่า โดยมล.กรกสิวัฒน์ ได้แจงเป็นเป็นประเด็นๆ พร้อมแสดงหลักฐานประกอบ ดังนี้

- จากข่าวปีที่แล้ว รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันเป็นอธิบดีแล้ว ท่านบอกว่าในอีสานมีก๊าซธรรมชาติสูงมาก และศักยภาพอาจจะมีมากกว่าซาอุดิอาระเบียด้วยซ้ำ อีสานมีพื้นที่ทั้งหมดราว 1.7 แสนตร.กม.เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพปิโตรเลียมถึง 1 แสนตร.กม. จำนวนน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่น้ำพอง(ขอนแก่น) และภูฮ่อม (อุดร) ที่มีการขุดอยู่แล้วทุกวันนี้ แต่ละวันมีก๊าซขึ้นมา ถึง 2.67 ล้านลิตร หรือเกือบ 1 พันล้านลิตรต่อปี

ข่าวพบบ่อน้ำมันที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เมื่อมกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มแตกกันแล้ว บางกลุ่มอยากให้ขุดเจาะ เพราะถูกหลอกว่าถ้าเอาขึ้นมาจะได้ใช้น้ำมันถูกลง แต่จริงๆแล้วน้ำมันที่ขุดได้ก็ต้องส่งไปที่โรงกลั่น ซึ่งพอโรงกลั่นขายกลับมาก็ขายให้เท่ากับราคานำเข้า บางกลุ่มไม่อยากให้ขุดเจาะเพราะเห็นแล้วว่าชาวบ้านที่น้ำพองไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเลย บางคนก็ต้องการขายพื้นที่ให้ได้ราคา แต่ความจริงในการขุดเจาะไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อชาวบ้านจึงสำคัญ จะทำให้ความขัดแย้งน้อยลง ที่สำคัญต้องบอกด้วยว่าคนอีสานจะได้อะไรจากการขุดเจาะ

- แอ่งสะสมตะกอนอินทรีย์ที่สามารถขุดเจาะเป็นปิโตรเลียมได้ ภาคเหนือ - อีสาน เต็มไปด้วยแอ่งนี้ สุโขทัย กำแพงเพชร มีแอ่งที่ใหญ่มาก แต่เอกสารนี้กลับมีแต่ระบุเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเอาไปเสนอให้ต่างชาติเข้ามาทำการสำรวจ ซึ่งในต่างประเทศจะเปิดเผยในภาษาท้องถิ่นให้คนรับทราบว่าท่านมีทรัพย์สมบัติอะไร เปิดเว็บให้คนเข้ามาเขียนแสดงความคิดเห็นด้วย

- ภาพแปลงพื้นที่ที่ให้คนเข้ามาประมูลขุดเจาะน้ำมัน จะเห็นว่ามีแปลงสัมปทานอยู่ทั่วอีสาน แต่วันนี้คนอีสานทราบหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ ในแง่ธรรมาภิบาล รํฐควรแจ้งให้ประชาชนทราบ หรือแม้แต่คนไทยทุกคนควรรู้ว่าเกิดไรขึ้น อย่างเวลาเห็นการสำรวจปิโตรเลียม ชาวบ้านยังคิดว่ามาขุดถนนเลย

- อันดับโลกที่อเมริกาจัดอันดับให้ไทย ของ EIA(Energy Information Administration) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก ในการผลิตก๊าซธรรมชาติ เราชนะประเทศในกลุ่มโอเปก อย่างไนจีเรีย เวเนซุเอล่า ลิเบีย คูเวต อิรัก บรูไน โบลิเวีย ตรงนี้กระทรวงพลังงานมักพูดว่าแต่ใต้ดินเรามีน้อย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใต้ดินจะมีเยอะหรือน้อย นอกจากจะทำการขุดเจาะ แต่กระทรวงพลังงานบอกว่าจะไม่ทำเอง เพราะไม่มีงบประมาณ แต่ตนคิดว่าแบ่งงบมาทำตรงนี้สักนิดจะมีประโยชน์มหาศาล อันดับเราไม่ได้ขี้เหร่ นี่คือปริมาณปิโตรเลียมที่ขึ้นมาต่อวัน จับต้องได้จริง ส่วนที่อยู่ในดิน เมื่อ 20 ปีก่อน ก็บอกว่าเหลือใช้ได้อีก 25 - 30 ปี ถึงตอนนี้ก็ยังบอกว่าเหลือใช้อีก 25 - 30 ปี เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี ความลึก แล้วก็แปลงพื้นที่ที่เปิดให้สำรวจด้วย

- ข้อมูลจาก CIA (Cental Intelligence Agency)The World Factbook ระบุว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 25 ของโลกในการผลิตก๊าซธรรมชาติ

- เอกสารของกระทรวงพลังงานเอง เมื่อมกราคม 2555 ระบุว่าไทยขุดเจาะปิโตรเลียมได้แล้ววันละเกือบ 9 แสนบาร์เรล หรือประมาณ 142 ล้านลิตร แบบนี้จะบอกไม่มีไม่ได้

- แหล่งพลังงานบนบกมีทั่วประเทศ ที่ใหญ่ๆ เช่น กำแพงเพชรขุดขึ้นมาวันละ 54 ล้านลิตร หรือปีละ 2 พันล้านลิตร เพชรบูรณ์วันละ 2.5 แสนลิตร สุพรรณบุรี 2.5 แสนลิตร เชียงใหม่เกือบ 1.7 แสนลิตร ส่วนในทะเล แหล่งใหญ่ๆอย่างบงกชขุดขึ้นมาวันละ 28 ล้านลิตร

มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลประโยชน์ของปิโตรเลียม แบ่งเป็น 3 ตัวด้วยกัน คือ ค่าภาคหลวง ส่วนแบ่งกำไร และภาษี ทุกประเทศมีส่วนแบ่งกำไรเหมือนกันหมด แต่ไทยไม่เก็บตรงนี้ ค่าภาคหลวงจะใกล้เคียงกัน ส่วนภาษีจากกำไร พม่า 30% กัมพูชา 30% ไทย 50% แต่จริงๆแล้วอย่าดูแยกส่วน ต้องดู 3 ตัวรวมกัน อยากให้ดูว่าสิ่งที่รัฐได้รับสุทธิกับการเอาทรัพยากรออกไปจากแผ่นดิน จะเห็นว่าเราแตกต่างจากกัมพูชาและพม่า เพราะเมื่อหักโน่นหักนี่แล้วของไทยได้จริงแค่ 29%

ดูที่ประเทศอื่น อย่างโบลีเวียเอา 82 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากก๊าซธรรมชาติ โดยโบลิเวียผลิตก๊าซธรรมชาติได้ในอันดับ 33 ของโลก คาซัคสถาน ได้ส่วนแบ่ง 80 เปอรเซ็นต์ของปริมาณน้ำมันที่ขุดเจาะได้ อาบูดาบี แบ่งกำไรให้บริษัทขุดเจาะไม่เกิน 1 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล รัสเซีย 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ในส่วนที่ราคาน้ำมันสูงกว่า 25 ดอลลาร์ฯ ซึ่งมันเกินอยู่แล้ว

"อีโว โมลาเลส" ประธานาธิบดีโบลีเวีย ได้พูดถึงเกี่ยวกับการบริหารปิโตรเลียมของประเทศ หลังจากเปลี่ยนการเก็บรายได้เข้ารัฐจากเดิม 50 - 50 มาเป็นเก็บ 82 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลเดิมได้รายได้ 3 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มมาเป็น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ประเทศเกินดุล ก้าวหน้าไปมาก

ต้องบอกว่าหลังน้ำมันราคาเพิ่ม ทุกประเทศแก้กฎหมายให้เอาเงินเข้ารัฐมากขึ้น แต่ประเทศไทยไม่มีเลย ทำไม่ได้หรือ เพื่อผลประโยชน์จะได้ตกกับประเทศเพิ่มขึ้น พม่ามาหลังเรา แต่ส่วนแบ่งเข้ารัฐได้มากกว่า เขมรก็ได้มากกว่า แล้วเขมรมีแหล่งขุดเจาะแห่งเดียวกับไทย คืออ่าวไทย จะมาอ้างว่าไทยขุดเจาะยากได้อย่างไร" มล.กรกสิวัฒน์ ระบุ

มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตัวเลขเมื่อปี 2551 ไทยส่งออกปิโตรเลียม ทั้งน้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว รวมทั้งหมดเกือบ 3 แสนล้านบาท หรือประมาณ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าข้าวและยางพารา อย่างไรก็ดีมีคนโต้แย้งว่า ปี 2554 ยางพาราแซงแล้ว แต่ประเด็นตนไม่ได้เถียงเรื่องอันดับ แต่ประเด็นคือหลายคนยังไม่รู้เลยว่าเราส่งออกปิโตรเลียม

แล้วใครเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากไทย ในเว็บของ Census Bureau (www.census.gov)เป็นหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ที่อเมริกา ก็มีตัวเลขชัดเจน ระบุว่า สหรัฐนำเข้าจากประเทศไทย ทั้งน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป LPG เพิ่มขึ้นมาตลอด น้ำมันดิบมากถึงประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีรายงานปี 2012 สหรัฐฯนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศไทยสูงถึง 1,204 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันในประเทศ ที่รัฐบาลพูดว่าเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่ม ช่วงสั้นเพิ่มขึ้นจริง แต่ขณะนี้เมื่อเทียบกับปี 2551 ตอนนั้นราคาตลาดโลกสูงไปถึง 145 เหรียญสหรัฐ แต่วันนี้อยู่ที่ 103.69 เหรียญสหรัฐ หรือก็คือประมาณ 20 บาท ต่อลิตรเท่านั้นเอง

เปรียบเทียบราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ปี 51 กับปัจจุบัน ของเวสต์เท็กซัส ตอนปี 51 (145 ดอลลาร์ฯ) ปี 55 (105 ดอลลาร์ฯ) เบรนท์ทะเลเหนือตอนนี้อยู่ที่ 120 ดอลลาร์ฯ ก็ประมาณ 23 บาท แต่ขายให้เราราคาหน้าปั๊ม 42-43 บาท

ต้นทุนน้ำมันดิบ ปี 51 อยู่ที่ 30.03 บาทต่อลิตร ขายเบนซิน 91 ราคาหน้าปั๊มที่ 42.5 บาทเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ต้นทุนน้ำมันดิบ 20.14 บาท ถูกกว่าประมาณ 10 บาท แต่ขายหน้าปั๊มพอๆกับตอนปี 51 เลย ทั้งที่มันไม่ได้แพงเท่าปี 51 แบบนี้มันน่าจะเป็นเรื่องนโยบายพลังงานมากกว่า ที่ทำให้คนไทยใช้น้ำมันแพง

ต่อมาราคาน้ำมันเบนซิน ของไทยประมาณ 42.58 บาท สหรัฐฯประมาณ 28-33 บาท ทั้งๆที่เราส่งออกไปที่อเมริกา สหรัฐฯมีการแข่งขันเสรี ไม่มีการอุดหนุนโดยรัฐ แต่มีแข่งขันกันหลายเจ้า นี่คือผลของการแข่งขัน ถ้าไทยมีการแข่งขันที่สมบูรณ์ราคาไม่น่าจะหนีจากกันเท่าไหร่

อีกอันคือข้อมูลเมื่อ 12 มีนาคม 55 เบนซิน 95 ไทยขายอยู่ที่ 44.86 บาท มาเลเซีย 19 บาท อินโดนีเซีย 31.70 บาท พม่า 24 บาท สรุปไทยแพงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ราคาก๊าซธรรมชาติ NGV ในไทย 15.50 บาท อเมริกา 2.61 บาท (ราคาขายส่ง) โดยไทยบอกว่านี่เป็นต้นทุนที่แท้จริง ตนต้องบอกว่าในกลไกตลาดเขาไม่ใช้ต้นทุนที่แท้จริงกัน เพราะต้นทุนของคนหนึ่งอาจไม่เท่ากับอีกคนหนึ่ง เพราะหากบริษัทพลังงานบริหารจัดการไม่ดี ต้นทุนก็อาจสูงได้ อันนี้มันขัดแย้งกับกลไกตลาดเสรี อีกทั้งภาพรวมราคาก๊าซตลาดโลก ลดลงมาตลอด แล้วบอกใช้ต้นทุนที่แท้จริง ไม่เหมาะสมแล้ว

มาที่เรื่องคุณภาพของ NGV มีการใส่คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งกรณีนี้พบว่า มาตรฐานสากลให้ใส่คาร์บอนไดออกไซด์ที่ 0 - 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ไทยโดยกระทรวงพลังงานประกาศให้ใส่ได้มากถึง 18 เปอเซ็นต์ ตรงกันข้ามกับมาตรฐานสากลหมดเลย แล้วเมื่อรวมก๊าซอื่นด้วย มาตรฐานสากลให้ใส่ไม่เกิน 4.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไทย 19 เปอร์เซ็นต์ ค่าความร้อนที่ใส่เข้าไปเพื่อให้ค่าความร้อนลดลง อเมริกาหรือต่างประเทศตั้งไว้ 48 - 52 แต่ของไทย 37 - 42 ไม่ตรงตามมาตรฐานสากลสักอย่าง

น้ำมันในอ่าวไทย เป็นเกรดที่แพงสุดในโลก เบา กลั่นง่าย มลพิษต่ำ เป็นที่ต้องการของประเทศพัฒนา เราส่งออกไปที่อเมริกา เมื่อส่งออกไปแล้ว พลังงานขาดแคลน ก็ไปนำเข้ามาจากตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำมะถันสูง พอต้องกำจัดกำมะถัน ก็ไปขอค่าใช้จ่ายจากกองทุนเชื้อเพลง เท่ากับว่าเอาของดีส่งออก แต่เอาของเสียเข้ามาในประเทศ แล้วยังต้องเสียเงินเพิ่มอีก

ส่วนกรณีที่อ้างว่าไทยนำเข้าน้ำมันเยอะ พบว่าวันนี้โรงกลั่นในไทยมีกำลังกลั่นล้นเกิน ฉะนั้นก็มีการนำเข้ามากลั่นเพื่อส่งออก แล้วจะมานับว่าเป็นความต้องการของคนไทยไม่ได้ อย่ามาหาว่านำเข้าเยอะ

ด้านผศ.ประสาท กล่าวว่า คนไทยถูกล้างสมองหลายเรื่อง ทำให้เชื่อว่าไทยไม่มีน้ำมัน เรื่องน้ำมันต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นทำชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ทำให้เชื่อว่าประชาธิปไตยเป็นแค่การเลือกตั้ง แต่มีการผูกขาดอะไรอยู่มากมาย ถูกทำให้เชื่อว่าโลกไม่มีพรหมแดน ไม่สนใจเรื่องความสุข สนใจแต่เทคโนโลยี พอเชื่องแล้วก็ลงมือปล้นทรัพยากรธรรมชาติ และปล้นแนวคิดด้วย บังคับให้ใช้พลังงานที่เขาผูกขาดได้ พอจะดิ้นไปทางอื่นเขาก็ไม่ยอม

ผศ.ประสาท กล่าวอีกว่า มีข้อมูลก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและพม่า ตนได้มาเมื่อ 10 กว่าปีแล้ว พบว่าราคาก๊าซในอ่าวไทยประมาณ 10.25 สตางค์ต่อลูกบาศก์ฟุต ซื้อมาจากพม่า 16.05 สตางค์ต่อลูกบาศก์ฟุต คิดทั้งโครงการ 40 ปี ตกที่ 4.5 แสนล้านบาท แปลว่าคนไทยซื้อก๊าซจากพม่าแพงกว่าจากอ่าวไทย ตนก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น พม่าอาจเสียค่าท่อก๊าซแต่หักแล้วก็ยังต่างกันมากอยู่

ก็พบความจริงว่าปตท.ไปตั้งบริษัทลูกขึ้นมา เพื่อรับซื้อก๊าซจากปากหลุมของไทยในราคาที่ถูกกว่าซื้อจากพม่า จากข้อมูลของ น.ส.รสนา ว่าราคาก๊าซอ่าวไทยอยู่ที่ 40 - 60 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโลก คำถามคือทำไมขายให้ไทยต่ำ เขาขายให้บริษัทลูกของเขาเองเพื่อไปกดค่าภาคหลวง ซึ่งอัตรา 12.5 เปอร์เซ็นต์ ต่ำที่สุดในโลกอยู่แล้ว แต่ไปกดให้ต่ำลงไปอีก ซื้อขายกันที่ปากหลุมในราคาถูกๆ สมมุติซื้อขายกันที่100 เสียค่าภาคหลวง 12.5 บาท แต่ถ้าขาย 50 เสียแค่ 6 บาท ก็จะถูกลงไปอีก มันโกง 2 ต่อ นอกจากโกงภาคหลวงให้ต่ำแล้ว ยังโกงราคาหน้าปากหลุมให้ต่ำ เพื่อจ่ายค่าภาคหลวงต่ำๆ เพื่อขายให้บริษัทแม่ และบริษัทแม่ก็ได้กำไรมากๆ

ทั้งนี้ข้อมูลจากการปิโตเลียมแห่งประเทศไทย พบว่าปตท.ขายน้ำมันให้เอกชนอื่นถูกกว่าขายให้กฟผ. สรุปกฟผ.ต้องซื้อก๊าซในราคาที่แพงกว่าเอกชนตกแล้ว 1.25 หมื่นล้านต่อปี แล้วภาระนี้ก็ตกที่ประชาชน ต้องจ่ายค้าไฟแพงขึ้น

นอกจากนั้น ไทยมีปั๊มน้ำมันสูงเป็น 2 เท่าของอังกฤษ แต่น้ำมันที่เราใช้กันเพียง 1 ใน 3 ของอังกฤษ มากกว่าที่ควรจะเป็น 5-6 เท่า แต่ละปั๊มมันเลยเจ๊งอยู่ไม่ได้ ค่าการตลาดที่ได้ก็น้อย ที่น่าเกลียดคือปั๊มให้แข่งกันเสรี แต่โรงกลั่นกลับผูกขาด ปั๊มเจ๊ง โรงกลั่นรวย อีกทั้งค่าการกลั่นของไทยสูงกว่ายุโรปและสิงคโปร์ถึง 2 เท่า

เส้นทางน้ำมันดิบในปี 51 ไล่มา ส่งออกในราคาที่ถูกกว่าขายให้คนไทย 1 บาทต่อลิตร ทั้งนี้เทคโนโลยีในการขุดเจาะก้าวหน้ามาก ต้นทุนถูกลงเยอะในขณะที่สามารถขุดเจาะได้จำนวนมากขึ้น แต่ค่าภาคหลวงกลับไม่ขึ้นเลย

ที่มาที่ไปของเวบไซต์นี้


ถ้าพวกคุณคิดว่าเป็นคนไทยจริงๆ ที่โคตรเหง้า บรรพบุรุษ อยู่และตายบนผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ ก็จงอ่านและติดตามข้อมูลสำคัญจากเวบไซต์นี้ซะ !!!

ผม ในฐานะ แอดมิน/เจ้าของ เวบไซต์นี้ ตั้งใจทำเวบไซต์นี้ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ ความชั่ว ความเหี้ย และความเลวบัดซบ ของการโกงพลังงานระดับชาติ และการขายชาติ ขายทรัพย์ในดินของพวกคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนไทย แต่โคตรเหี้ย ร่วมมือกับฝรั่ง ขนทรัพย์ในดินที่ ปู่ ย่า ตา ทวด ของพวกเราเกิด ปกป้อง และล้มตายอยู่ที่แผ่นดินนี้

จงรับรู้ความจริงกันซะ ว่ามันน่าตกใจแค่ไหน มันยิ่งกว่าในหนังในละครเสียอีก เมื่อรับรู้แล้ว จงบอกต่อ  จงมาติดตามที่เวบนี้ มารวมพลังกัน เลิกเสียเถอะ จะสีแดง สีเหลือง เหี้ยอะไรก็ตาม หยุดปัญญาอ่อน หยุดโง่เง่า มาดูเรื่องจริง ความจริง ว่าอะไรเป็นอะไร

เดี๋ยวจะหาว่ามาเอาแต่ด่า ไร้สาระ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน เคยคิดมั้ยว่า ประเทศไทยเราจะเป็นยังไงถ้าณ ตอนนี้ ปี 2555 ราคาน้ำมันอยู่ที่ ลิตรละ 15 บาท  เป็นไปได้ครับ ไม่ได้เพ้อฝัน ไม่ได้ปัญญาอ่อน ลองมาอ่านดู แล้วจะรู้ว่าทำไม แล้วเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อหลากสี เสื้ออะไรก็ตาม มารวมพลังกัน

หยุดเชื่อรัฐบาล หยุดเชื่อสิ่งที่นักการเมืองบอก เพราะพวกมันก็รับเงินมาจากพวกบริษัทน้ำมันพวกนี้แหละ มันจะมาช่วยพวกท่านทำไม ไม่ว่าท่านจะเหลือง หรือจะแดง ท่านก็ใช้น้ำมันอยู่ทุกวันไม่ใช่หรือ ความขัดแย้งทางการเมือง ก็หยุดไว้ก่อน มาดูนี่ดีกว่า เรื่องน้ำมัน ที่เรากำลังถูกสูบ ถูกปล้นออกไปจากแผ่นดินไทย โดยที่ไม่รู้เนื้อ รู้ตัว 

"อย่าปล่อยให้ถึงวันที่ น้ำมันใต้แผ่นดินไทยเราหมดประเทศเสียก่อน ค่อยมารู้สึกกัน"

ก่อนจะตัดสินใจทิ้งเวบนี้ไปหรือไม่สนใจ ขอให้ลองอ่านบทความข้อเท็จจริง รวมทั้งดูคลิปวีดีโอจาก youtube การสัมนาทางวิชาการเสียก่อน แล้วท่านจะรู้ว่า ท่านกำลังเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ กับค่าน้ำมันที่สุดแสนจะแพง คนรวยคือบริษัทน้ำมัน พวกเรา ประชาชนธรรมดา ก็จนกันต่อไป 

ไม่อยากจน ไม่อยากโง่ ก็มาร่วมมือกัน ติดตามเป็นแฟนเพจกัน เผยแพร่ ให้เหมือนเป็นลัทธิความเชื่อ เมื่อวันนึง เรามีกำลังคนมากพอ เราจะลุกขึ้นมา ปฏิวัติ ขับไล่พวกบริษัทโกงชาติพวกนี้ออกไป

ขอย้ำว่า นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะนักการเมือง ไม่ใช่ปัญหาสำคัญหรือตัวการใหญ่ สิ่งที่ต้องทำคือ ขับไล่พวกบริษัทน้ำมันที่มาขุดเจาะเอาน้ำมันเราออกไป และ ไอ้เหี้ย ปตท. ที่ขูดเลือดขูดเนื้อคนประเทศเดียวกัน ทำเหมือนเป็นบริษัทต่างชาติ 

มาร่วมมือกัน ที่ Facebook Fanpage และติดตามข่าวสารได้ทาง twitter