วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

แค่อยากให้พิจารณาอย่างเป็นกลาง และดูอย่างเป็นกลาง

น้ำมันแพงเพราะ ปตท. เป็นไปได้งั้นหรือ ??? มองคำถามนี้อย่างเป็นกลาง



ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ผมได้รับ forward รูปภาพ หลายๆรูป ที่เกี่ยวกับการปลุกประเด็นที่ว่า ปตท. โกงน้ำมันชาติไทย ส่งต่อมาทาง Social Network ซึ่งต้องยอมรับว่า ค่อนข้างเป็นที่ฮือฮา

..แต่อย่างไรก็ดี ขอย้ำเลยว่า เรื่องพวกนี้จะไม่มีทางเป็นข่าวออกทางทีวีช่องปกติ อย่าง 3 5 7 9 แน่นอน นั่นเพราะ ช่องสถานีทีวีเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจาก ปตท. อย่างทั่วถึง เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นที่พวกเค้าจะต้องมานั่งทุบหม้อข้าวตัวเองไปทำไม 


วันนี้ผมอยากแชร์สิ่งที่ผมได้รับและเชื่อว่า เป็นเหตุเป็นผลที่ดี สำหรับทุกท่าน ผมอยากให้ดูอย่างเป็นกลางนะครับ เพราะใน Social Network นั้นต้องยอมรับจริงๆว่า มีพวก นักเลง Keyboard มากมาย ที่ชอบป่วน จริงๆก็เห็นด้วย แต่ขอป่วน เหมือนเป็นโรคจิตอ่อนๆ นั่นเอง 

คลิปนี้เป็นการโต้ดีเบท ของนักวิชาการ กับนักการเมือง ก็ดูกันเอาครับ



ต่อมาเป็นตารางเปรียบเทียบ ผมไม่ได้เอาการเมืองมาเป็นประเด็นนะ แต่ยังไงการเมืองมันก็มีส่วนอยู่แล้ว หรือพวกท่านคนใดจะบอกว่า นักการเมืองไทย ไม่โกง???


วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รัฐบาลเตรียมยกเลิกจดทะเบียนรถใช้ LPG หลังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อย


รัฐบาลเตรียมยกเลิกจดทะเบียนรถใช้ LPG หลังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อย

lpg ngv

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานสัมมนา "พลังงานสัญจร สะท้อนความเห็นผู้ประกอบการ ปี 2556" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เข้าร่วมงาน โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีแผนจะลดการใช้ก๊าซ LPG ในรถยนต์ โดยได้หารือกับกระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม ศึกษาเรื่องการยกเลิกจดทะเบียนรถยนต์ LPG ในอนาคต เพราะมีปัญหาด้านความปลอดภัย เกิดอุบัติเหตุรถชนและระเบิดอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งลักลอบใช้ก๊าซผิดประเภท และส่งออก ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินจากกองทุนน้ำมันที่ใช้อุดหนุน

           ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะเร่งขยายปั๊มก๊าซ NGV ดูแลความปลอดภัยของรถยนต์และปั๊มก๊าซ LPG โดยร่วมกับตำรวจตรวจสอบปั๊ม LPG ทั่วประเทศ ไม่ให้บรรจุก๊าซเกินปริมาณที่แจ้งไว้ หากพบว่าจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์จะถูกดำเนินคดีรุนแรง มีโทษปรับ 30,000 บาท จำคุกไม่เกิน 10 ปีต่อ 1 คดี

แหล่งข่าว ผู้จัดการออนไลน์ 

ความชั่วของนักการเมือง เหี้ยๆ มากันอีกแล้วครับท่าน เหตุผลที่ว่ามาทั้งหมดก็ เข้าทางที่ รมว.พงศ์ศักดิ์ วางเอาไว้เลย ถ้าดูข่าวอื่นประกอบ จะเห็นว่าตอนนี้แกกำลังปูโปรเจค ผลิตก๊าซประเภท NGV ด้วยหญ้าเนเปียร์ แล้วจะเอาก๊าชดังกล่าวมาใช้ในรถยนต์ และผลิตไฟฟ้า


ทั้งที่จริง ๆ เป็นแนวทางที่แย่มากเพราะ

1.หญ้าเนเปียร์ใช้น้ำเป็นปริมาณมาก คุณต้องรดน้ำมันเป็นปริมาณมหาศาล กว่ามันจะโตพอที่จะเอามาผลิตพลังงาน

2.ในการผลิตไฟฟ้า ต้องใช้หญ้าที่่ว่านี้ถึง 1000 ไร่ ต่อไฟฟ้าที่ได้เพียง 1 MW เทียบกับโซลาเซลล์ที่ใช้ที่ 20 ไร่ต่อ 1 MW หรือโรงไฟฟ้าชีวมวลทั่วไปที่ใช้ที่ราว ๆ 10 ไร่ต่อ 1 MW (โรงไฟฟ้าขนาด 10 MW ขึ้นไป)

สรุปว่าเปลืองทั้งน้ำ เปลืองทั้งเวลาปลูก เสียที่ดินอีกมหาศาล

แต่ รมว. กลับผลักดันสุด ๆ ครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการตั้งโรงงานผลิตก๊าซนั้นสูงมาก

ทั่น รมว. เทียบเอาไว้ว่าถ้าจะผลิตให้ได้ก๊าซ NGV ออกมาเทียบเ่ท่าปริมาณผลิตไฟฟ้า 1 MW จะต้องลงทุนถึง 100 ล้านบาท ! (แพงกว่าพลังงานอย่างอื่นทุกชนิด ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้)

งานนี้ต้องจับตาดูครับ ว่าเงินที่รัฐจะสนับสนุนโครงการผลิต NGV จากหญ้าเนเปียร์จะไปเข้ากระเป๋าใคร ตอนนี้ กพช. อนุมัติโครงการนี้แล้วนะครับ


ตอนนี้ก็เข้าแผนขั้นสองคือกำจัดรถใช้ LPG ออกไป



สุดท้าย commission ค่าสร้างโรงงานผลิตก๊าซ NGV จากหญ้าเนเปียร์จะไปไหนเสีย ?



นักการเมืองเหี้ยๆแบบนี้ ทำได้ก็แค่คิดแบบเด็กอนุบาลแถวบ้านเลยครับ ท่าน รมต. แก้ปัญหาให้มันตรงจุดหน่อยซิครับ ผมว่ารถชนกันตายทุกวันมากกว่ารถติดแก๊สระเบิดอีกนะท่าน ถ้าเป็นแบบนี้ไม่สั่งให้ยกเลิกใช้รถไปเลยเหรอ

       "ศึกษาเรื่องการยกเลิกจดทะเบียนรถยนต์ LPG ในอนาคต เพราะมีปัญหาด้านความปลอดภัย เกิดอุบัติเหตุรถชนและระเบิดอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งลักลอบใช้ก๊าซผิดประเภท และส่งออก ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินจากกองทุนน้ำมันที่ใช้อุดหนุน"

ปัญหาด้านความปลอดภัย ก็ควรไปแก้ที่ที่สถานที่ติดตั้งให้ได้มาตรฐาน ต้องมีการตรวจสอบ ไม่ได้มาตรฐานก็ยกเลิกไป ส่วนรถที่ติดก็ให้ตรวจเช็คทุกปีก่อนต่อ พรบ. ส่วนเรื่องที่ว่า " เกิดอุบัติเหตุรถชนและระเบิดอยู่บ่อยครั้ง" ขอประทานโทษครับ ไอ้คุณ รมต. หัวควย รถที่ไหนชนกันมันก็ระเบิดได้หมดแหละ NGV ชน ระเบิดก็มีเยอะแยะ แม้แต่รถเมล์ติด NGV ไม่ได้ชน แม่งยังระเบิดเล้ย คุณ พงษ์ศักดิ์  คุณเคยขับรถเองบ้างมั้ย คุณมันรวยนี่ มีคนขับรถให้ บ้านหลังใหญ่โต ในหมู่บ้านหรูหรา จะมากังวลอะไรกับคนรายได้น้อยเล่า คิดแต่จะกอบโกย เพราะถือว่ามีหุ้นอยู่ใน ปตท. แค่นั้นอ่ะนะ คุณเองก็แก่จะตายอยู่แล้ว จะเอาเงินไปไหนนักหนา ตายไปลูกหลานคุณก็ได้เสวยสุข คุณก็ไปตกนรกแค่นั้น

ส่วนการลักลอบใช้ก๊าซผิดประเภท คงหมายถึงการถ่ายถัง ไม่ยาก ก็ทำค่าอ๊อกเทนของแก๊สครัวเรือนให้ค่าอ๊อกเทนต่ำ หรือใส่สารอะไรเพิ่มเติมก็ได้ที่ให้ใช้ในรถยนต์ไม่ได้

ลักลอบส่งออก  อันนี้ต้องไปแก้ที่เจ้าหน้าที่ที่รับส่วยแถวชายแดนแล้วล่ะครับ

สูญเสียเงินจากกองทุนน้ำมันที่ใช้อุดหนุน  ส่วนข้อนี้ก็ยกเลิกการอุดหนุนไปซิครับ ใครไปบีบคอให้อุดหนุนเหรอ ก็ขึ้นไปให้ตามราคาต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่ราคาโลก


แฉกันมา จนไม่รู้จะแฉยังไงแล้ว ใครมาอ่าน ก็ขอให้ช่วยแจ้งกันต่อๆไปด้วยนะครับ เราต้องช่วยกันครับ ผมขี่มอไซต์ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่อง LPG อยู่แล้ว แต่นี่มันทุเรศเกินไปจริงๆ เพราะสำหรับผม NGV หรือ LPG ก็ดีทั้งคู่ ประหยัด และอยากให้แข่งกันแฟร์ แบบลดต้นทุนมาสู้กัน ให้ประชาชนมีทางเลือก ไม่ใช่มาเป็นเครื่องมือนักการเมืองเพื่อกอบโกยอย่างเดียว พวกประชาชนอย่างเรา เป็นคนนะครับ ไม่ใช่วัวนม จะได้ให้พวกนักการเมืองมารีดๆๆๆ เอาตามสบาย ช่วยกันครับ 

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เติมน้ำมัน ปั๊มไหนดี(มีสาระนะคับ)



เติมน้ำมัน ปั๊มไหนดี(มีสาระนะคับ)


> > ใครดูรายการของคุณสัญา คุนากร
> > ได้คุยเรื่องน้ำมันในประเทศไทย ฟังเเล้วช๊อคจริงๆครับเพื่อนๆ
> > ทางคุณสัญาได้เชิญอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงพลังงานมาเล่าให้ฟัง
> > ซึ่งผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพลังงาน
> > ได้ฟังท่านเล่าเเล้วผมขนลุก...ครับ
> > ผมเข้าใจผิดมาตลอดว่าเมืองไทยไม่สามารถผลิตนำมันได้เองต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
> > ซึ่งท่านบอกว่าเมืองไทยมีกำลังผลิตได้ 1,000,000 บาร์เรล/วัน(ปตท.)
> > เเละเมืองไทยใช้น้ำมันวันละ 700,000 บาเรล/วัน
> > เเละเมืองไทยส่งออกน้ำมันประมาณ 100,000 บาเรล/วัน
> >
> > ฟังเเล้วเพื่อนคิดยังงัยครับ
> > เเละที่เเย่กว่านั้น..น้ำมันที่ส่งออกไปขายในต่างประเทศราคาถูกกว่าที่ขายในเมืองไทยหลายบาทถ้าเทียบต่อลิตร
> > ตอนนี้มาเลเซียใช้น้ำมันเบนซินเเละดีเซลประมาณลิตรละ 20 บาทต้นๆ
> > ท่านบอกว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำมันราคาเเพง เพราะว่าอธิบดีหรือผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงพลังงานถือหุ้นบริษัทโรงกลั่น
> > ทำให้ไม่มีการเข้ามาจัดการเเละดูเเล
> > ราคาที่ปรับขึ้นทีละ .50 บาทเป็นการขึ้นจากโรงกลั่นซึ่งราคาที่ปรับขึ้นไม่ได้มาจาก cost ต้นทุน
> > เเต่ป็นราคาที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ โดยอ้างอิงจากตลาดที่ผันผวนมากที่สุด
> > ในที่นี้ท่านยกตัวอย่างตลาดสิงคโปร์ เเต่จริงๆเราซื้อจากตะวันออกกลาง
> >
> > เเละอีกอย่างที่น่าตกใจ ท่านบอกว่าในประเทศไทยมี stock น้ำมัน 2 เดือนเเละหมุนเวียนอย่างนี้เรื่อยๆ
> > พอเวลากระทรวงปรับน้ำขึ้นพวกพ่อค้าเอาน้ำมันใน stock มาปรับขึ้นด้วย
> > คิดดูเอาเองว่าเป็นเงินเท่าไหร่
> > ไทยใช้ 700,000 บาเรล/วัน ( 1 บาเรล = 159 ลิตร )
> > 2 เดือนกี่ลิตร ลิตรละ .50 บาท ลองคูณดู
> >
> > บริษัทที่ได้กำไรเยอะมากคือ ปตท เพราะมีโรงกลั่น 5 โรง อีก 2 โรงเป็นของเอกชน
> > รวมในประเทศไทยมีโรงกลั่น 7 โรง เป็นของ ปตท 5 โรง
> > เเล้วท่านสรุปกำไรของปตทในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ประมาณปี 2540-2544 ปตท กำไรปีละ 22,000 ล้านบาทครับ
> > ฟังเเล้วเป็นงัยครับพี่น้อง...
> > กำไรเท่ากับงบประมาณ 1 กรมเลยทีเดียว
> >
> > เเละที่สุดยอดกว่านั้น ปี 2545-2550 ปตทกำไรเพิ่มเป็น 50,000ล้านบาท/ปี
> > เเละที่สุดๆ คือ ในปี 2548 กำไร 195,000 ล้านบาท
> > ฟังเเล้วอยากให้ลูกทำงานบริษัท ปตท มั้ยครับเพื่อนๆ
> > กำไรดังกล่าวมาจากอะไรลองคิดดูครับ
> > ประชาชนตาดำๆอย่างเราเสียค่าน้ำมันลิตรละ 36 บาท
> > ถ้าเป็นรัฐบาลก่อนๆ น้ำมันขึ้น 3 บาท รัฐมนตรี นายก ต้องก้นร้อนเเล้ว
> > เเล้วรัฐบาลน ี้ล่ะ..ตอนนี้ขึ้นไปกี่บาทเเล้ว เพื่อนๆลองคิดดูเเล้วกัน
> >
> > ถ้า ปตท ลดกำไรลงเท่ากับ 20,000 ล้านบาท/ปี
> > เเค่นี้เราก็ใช้นำมันลิตร 20 บาทเเล้วครับ
> > (นี่เเหละเหตุผลที่ไม่อยากให้เเปรรูปอุตสาหกรรมพวกนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน)
> >
> > นี่คือเหตุผลว่าทำไมพนักงานการไฟฟ้าถึงได้ประท้วงเวลามีการเเปรรูป
> > เพราะมันจะเป็นเหมือนน้ำมัน ซึ่งพอเข้าตลาดหุ้นจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนตามมา
> > อธิบดี รัฐมนตรี เมียอธิบดี เมียรัฐมนตรี ถือหุ้นโรงกลั่น
> > ทำให้ไอ้พวกนี้ไม่เข้าไปดูเเลเเละจัดการอย่างจริงจัง
> > ทำให้น้ำมันเเตะลิตรละ 40 บาทเเล้ว ณ ปัจจุบัน
> >
> >


มาร่วมมือกันดีไหม... 


ด้วยการเติม esso, shell 
และถ้าจะให้ดีกว่านี้..เราต้องร่วมมือกันไม่ซื้อมากกว่าที่จำเป็นต้องใช้ 
ถ้าทุกครั้งเราเคยเติม 1000 บาทหรือเต็มถ้ง.. คราวนี้เราจะไม่เติมมากกว่าที่เราจำเป็นต้องใช้ 
> > 
ตัวอย่างเช่น วันนี้จะวิ่ง 30 กม. เราก็เติม 4.5 ลิตรหรือ 200 บาท 
จะวิ่งอีก 70 กม. เราก็เติม 10 ลิตรหรือ 400 บาท 
จะวิ่งอีก 100 กม. เราก็เติม 14 ลิตรหรือ 500 บาท 
> > 
อย่าเติมเยอะ... 
ไม่ต้องไปตุนเพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะขึ้นราคา 
> > 
คราวนี้สต็อกน้ำมันในคลังก็จะล้น 
เพราะปริมาณที่เคยขายทุกวันก็จะถูกเลื่อนให้ต้องเก็บไปขายในอนาคต 
ถ้ามันยังอยากขายก็ต้องลดราคาลงมา ให้มันรู้ว่าไผเป็นไผ 
เคยมีคนศึกษากรณีไข่ไก่แพง และได้ลองทำล้กษณะนี้ได้ผลมาแล้ว 
> > 
สั่งสอนให้บทเรียนมันหน่อย เริ่มลงมือปฏิบัติการได้เลย 
ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย ขอเพียงช่วยกันกระจายข่าวไปให้มากที่สุด 
> >
สามัคคีคือพลัง... 
ส่งมาให้อ่านกันเพราะอยากให้ราคาน้ำมันลดลงจริงๆ 
พวกเราโดนโอเปครวมหัวขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม ก็น่าจะมีมาตรการที่จะต่อสู้ ตอบโต้กลับไปบ้าง 
ข้อเสนอนี ้ก็น่าจะเป็นข้อเสนอหนึ่งที่ถ้าร่วมกันทำจริงๆ ก็น่าจะแสดงอะไรออกมาได้บ้าง

“ปตท.ทรราชน้ำมัน”บน“น้ำตาคนไทย! 9


สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ความโลภในอำนาจ-เงินทองเป็นอันตรายร้ายแรงที่สุดต่อมวลมนุษยชาติในโลก!

ในฐานะผู้ถือหุ้นมากมายของ ปตท. ได้เงินปันผลตอบแทนต่อปีมากมาย แต่สำหรับนักธุรกิจการเมืองอย่างเหลี่ยมนั้น..มันเป็นเงินแค่น้อยนิด

เหลี่ยมสนใจการเป็นเจ้าของบ่อก๊าสและน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา ที่ประเมินค่าไม่ได้มากกว่า!

เรื่อง ปตท.ทรราชน้ำมันบทนี้ ขอชวนท่านผู้อ่านสะกดรอยตาม“เหลี่ยม” ผู้เป็นเจ้าของพรรค-รัฐบาล-รัฐสภา ที่กำลังเดินหน้าฮุบบ่อก๊าสและน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา เพื่อโกยผลประโยชน์มหาศาลเข้ากระเป๋าอยู่ในเวลานี้?

เรื่องของบ่อก๊าสและน้ำมันตอนนี้ เกี่ยวข้องกับชื่อ“ฮุนเซน-ปู-เหลี่ยม-เชฟรอน-ฮิลลารี-อเมริกาชนิดแยกจากกันไม่ได้เลย โดยเฉพาะเหลี่ยม-ฮุนเซน-อเมริกานั้น เป็น“หุ้นส่วนลับๆ”ที่กำลังทำงานเอื้อประโยชน์ให้กันและกันอยู่ 3 เรื่อง

เรื่องที่หนึ่ง-ฮุนเซน-เหลี่ยม-ปู-เชฟรอน-ฮิลลารี-อเมริกา ฯลฯ กำลังช่วยกันผลักดันทั้งลับและเปิดเผย ให้ฮุนเซนได้ดินแดนไทย 4.6 ตร.กม.บริเวณปราสาทพระวิหาร โดยผ่านการพิพากษาของศาลการเมืองระดับโลกในเร็วๆ นี้

งานนี้..แลกกับการที่ฮุนเซนจะยกบ่อก๊าสและน้ำมันใต้ทะเลฝั่งเขมรให้เหลี่ยม-เชฟรอน!

ที่ฮุนเซนอยากได้ดินแดนไทยนั้น เพื่อทำให้การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ของปราสาทพระวิหารสมบูรณ์และสำเร็จนั่นเอง

อีกทั้งถ้ายึดดินแดนไทยได้ตามแผน ฮุนเซนจะกลายพันธุ์จากเผด็จการเขมร เป็นวีระบุรุษคนแรกของชาวเขมร ที่เป็นประเทศ“กระจิบ”แต่“สยบเหยี่ยว”ได้ หรือยึดดินแดนประเทศไทยที่ใหญ่กว่าได้ไงครับ

ทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้ฮุนเซนชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อจะได้เป็นนายกฯ ครองอำนาจรัฐเขมรอีกครั้ง..อีกนาน..

ที่ฮุนเซนต้องยึดอำนาจรัฐเขมรแบบเบ็ดเสร็จอีกครั้ง ก็เพื่อจะได้ใช้อำนาจเผด็จการยกบ่อก๊าสและน้ำมันให้หุ้นส่วนเหลี่ยมกับเชฟรอน โดยฮุนเซนก็จะได้สวาปามผลประโยชน์ลับๆนี้ด้วย เพราะฮุนเซนเป็นอนุมัติหรือลงทุนด้วยบ่อก๊าสและน้ำมันของชาติกัมพูชา ให้เหลี่ยม-อเมริกาและตัวเองได้สวาปามไงล่ะครับ

ความอยากได้ก๊าสและน้ำมันใต้ทะเล ทำให้รัฐบาลเหลี่ยมยอมฮุนเซนทุกอย่าง เช่น ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ใน MOU 2543 ที่ทำยุครัฐบาล นายชวน หลีกภัย ต่อไป และมีการเซ็น MOU 2544 เพื่อกรุยทางสวาปามบ่อก๊าสและน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชาอีกด้วย

อีกทั้งทหารเขมรที่เข้ามายึดครองดินแดนไทย บริเวณรอบตัวปราสาทพระวิหารอย่างหน้าด้านๆของฮุนเซน หุ้นส่วนผลประโยชน์ของฮุนเซน ผู้ครองอำนาจรัฐอยู่ในไทยอย่างเหลี่ยม-ก็วางเฉย แถมปล่อยให้ชาวเขมรเข้ามาตั้งหมู่บ้าน-ตลาด-วัดกันสบายใจเฉิบ

ปฏิบัติการผู้นำไทยใจชั่วยกแผ่นแดนไทยให้เขมรครั้งนี้ ฮุนเซนกับคนไทยขายชาติบางคนทำเพื่อตบตาชาวโลกด้วยตรรกะง่ายๆ ว่า ดินแดนไทยที่ทหารเขมรเข้ามายึดครองอยู่นี้-เป็นดินแดนของชาติเขมร เพราะหากเป็นดินแดนของไทยแล้ว..ไฉนใยรัฐบาลและทหารไทย จึงนิ่งเฉย-ไม่มีหือ-ไม่มีอือ-ไม่มีการปะทะ หรือขับไล่ทหารเขมรออกจากดินแดนไทย?

แถมรัฐบาลเหลี่ยมยังให้เงินภาษีอากรคนไทยมากมาย ไปช่วยฮุนเซนสร้างถนนจากฝั่งเขมรมาจ่อยังชายแดนไทย จากนั้นก็ปล่อยให้เขมรสร้างถนนต่อเข้ามาในแผ่นดินไทย ตรงขึ้นไปที่ตัวปราสาทพระวิหาร โดยรัฐบาลและทหารไทยไม่ได้ขัดขวางแต่ประการใดเลย

การยกดินแดนไทยให้เขมรตามแผนฮุนเซนแบบเต็มสูบ มาชะงักลงเมื่อรัฐบาลแม้วที่คอร์รัปชั่นจนฉาวโฉ่ไปทั่วโลก เดินสะดุด“รถถัง”ล้มโครมลงอย่างฉับพลัน ในเดือนกันยายน 2549 เสียก่อน เล่นเอาฮุนเซนหัวเสียอย่างหนัก

ฮุนเซนมาอารมณ์ดีอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลนอมีนีเหลี่ยม-สมัครขึ้นครองเมือง แผนยกดินแดนไทยให้ชาติเขมร เพื่อแลกกับบ่อก๊าสและน้ำมันให้เหลี่ยม-เชฟรอนจึงเดินหน้าต่ออีกครั้ง โดยรัฐบาลสมัครได้ส่ง รมว.ต่างประเทศ“ติ๊งเหล่”ของไทย ไปเซ็นแถลงการณ์สนับสนุนกัมพูชาถึงฝรั่งเศส ต่อหน้า คกก.มรดกโลก

แต่การเดินหน้าขายชาติของรัฐบาลนอมีนีเหลี่ยม ต้องหยุดกึกลงอีกสองครั้งสองครา เพราะรัฐบาลนอมีนีของเหลี่ยม-สมัคร-สมชายถูกประชาชนขับไล่จนล้มลง!

เรื่องฮุบบ่อมหาสมบัติก๊าสและน้ำมันมาเดินหน้าเต็มที่ เมื่อรัฐบาลปูน้องสาวเหลี่ยมขึ้นครองเมือง ท่ามกลางนโยบาย“พญาอินทรีอเมริกา”สยายปีก หวนคืนสู่อำนาจเหนือเอเซียบูรพาอีกครั้ง ดังนั้น รัฐบาลอเมริกาจึงให้รมว.ต่างประเทศ “นางฮิลลารี”จูงมือเชฟรอน แอบเข้าออกทำเนียบฯไทย-กัมพูชาเป็นว่าเล่น

เรื่องที่สอง-ด้วยเหลี่ยมมีปัญหาที่ยังยึดอำนาจรัฐไทยไม่ได้เต็ม100% แม้เหลี่ยมจะจ้างแกนนำคนเสื้อแดง เป็นกองทัพอันธพาลทางการเมืองแบบถ่อยเถื่อน จนมีผลงานเผาบ้านเผาเมือง-ก่อการร้ายฆ่าทหารมาแล้ว ให้ปกป้องรัฐบาลปูและข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงข้ามเหลี่ยม

แต่นับวัน..ขบวนการคนเสื้อแดงที่ถ่อยเถื่อน ที่มุ่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ทำให้รัฐบาลเหลี่ยม-ปูภาพพจน์เสียหายยับเยิน จนรัฐบาลเหลี่ยม-ปูตกต่ำไม่มั่นคงอย่างน่าใจหาย

หากรัฐบาลเหลี่ยม-ปูทำชั่วด้วยการขายและโกงชาติจนฉาวโฉ่ รัฐบาลนี้ก็อาจล้มครืนลงได้ทุกเมื่อ!

ดังนั้น เหลี่ยมจึงเร่งงานฮุบบ่อก๊าสและน้ำมันมาเป็นสมบัติส่วนตัวโดยด่วน พร้อมๆไปกับพยายามยึดครองอำนาจรัฐไทยไว้นานๆอีกด้วย

ปัญหามากมายเป็น-ตายเช่นนี้ของรัฐบาลเหลี่ยม-ปู ทำให้เหลี่ยมหันหน้าไปพึ่งอเมริกา เพราะเชื่อว่ามหาอำนาจอเมริกาจะช่วยตน และปกป้องรัฐบาลปูให้อยู่ในอำนาจได้นานๆอีกด้วย ดังนั้น เหลี่ยมจึงตัดสินใจเลือกยืนข้างอเมริกาเต็มตัว จนยอมให้อเมริกาใช้ไทยเป็นฐาน ปิดล้อมจีนและพันธมิตรอย่างเปิดเผย

โดยรัฐบาลปูใช้เล่ห์หลอกคนไทยว่า อเมริกาแค่ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ตั้งศูนย์บรรเทาวิบัติภัยในภูมิภาคนี้ ส่วนองค์การอวกาศนาซ่าที่ขอใช้พื้นที่เดียวกัน ก็เพื่อสำรวจเมฆกับบรรยากาศนอกโลกเท่านั้น

รัฐบาลปูยังช่วยแก้ต่างให้อเมริกาว่า โครงการทั้งหมดไม่เกี่ยวกับการเมือง และไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝง แถมยังเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคนี้ รวมทั้งไทยอย่างใหญ่หลวงอีกด้วย อีกทั้งจะช่วยป้องกันน้ำท่วมบ้านเราได้อีกต่างหาก..เอ๋อไปนั่นเลย..

แต่ที่ใหนได้..โครงการนาซาดันมีบริษัทน้ำมันเชฟรอนมาร่วมด้วย แถมยังมีเครื่องบินที่ใช้เพื่อการสอดแนม ติดอุปกรณ์สำรวจทรัพยากรอันมีค่าทั้งบ่อก๊าซ-น้ำมัน ฯลฯได้อีกด้วย

แน่นอน..ประเทศที่มีปัญหากับอเมริกา ทั้งจีน-รัสเซีย-อิหร่าน ฯลฯย่อมรู้ว่า การกู้วิบัติภัยมิใช่เรื่องของพลเรือน หากแต่ต้องใช้กองกำลังและเครื่องมือทางทหาร ทั้งบก-เรือ-อากาศ-ดาวเทียม ฯลฯทั้งสิ้น

ดังนั้น หากอเมริกาแอบใช้อู่ตะเภา เป็นจุดพักพลและสับเปลี่ยนกำลัง หรือเป็นจุดซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์และเติมน้ำมัน ทั้งเรือรบและเครื่องบิน ฯลฯ ในการปิดล้อมและโจมตีประเทศที่อเมริกาถือเป็นศัตรู นั่นย่อมไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย..จริงไหม?

แต่ความอยากได้บ่อก๊าซและน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา อเมริกาจึงต้องเอาใจทั้งฮุนเซนและเหลี่ยม เพราะอเมริกา-ฮุนเซน-เหลี่ยมนั้นเหมือนกัน นั่นคือ ละโมบโลภมากในอำนาจและเงินทองชนิดไม่รู้จักพอไงล่ะครับ!

แต่รัฐบาลปูของแม้วที่ยังอ่อนแอและต้องการความช่วยเหลืออย่างมากนั้น ได้เปลี่ยนสถานะมหาอำนาจอเมริกา ให้อยู่ในฐานะ“นายผู้บงการ”รัฐบาลเหลี่ยม-ปู ดังนั้น สนามบิน“อู่ตะเภา”จึงเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งจากเหลี่ยม แต่การให้“วีซ่า”เข้าอเมริกา10 ปีกับเหลี่ยมนั้น ถือเป็น“แหวนหมั้นวงโต”ที่เหลี่ยมใฝ่ฝันอยากได้ก่อนการ“แต่งงาน”จริงกับ“ลุงแซม”ครับ

เรื่องฮุบบ่อก๊าซ-น้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา จึงต้องสะกดรอยตาม“เหลี่ยม”ต่อครับ!

“ปตท.ทรราชน้ำมัน”บน“น้ำตาคนไทย! 8


สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ปตท.คือ ขุมทรัพย์หรือแหล่งเงินเครือข่าย“ทักษิณ ชินวัตร”มาตลอด!

นอกจากบริษัท ไทย คอนซัลแตนท์ แอนด์ พับบลิครีเลชั่น จำกัด ซึ่งมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของรัฐบาล“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ปัจจุบัน เคยถือหุ้นในช่วงก่อตั้ง จะรับงานเป็นล่ำเป็นสันในปตท.แล้ว

ปตท.ยังเป็นแหล่งล่าเงินทองของ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เพื่อนร่วมแก๊ง“ไอ้เต้น”อีกด้วย

ถึงขนาดข่าวออนไลน์บางแห่งพาดหัวว่า

ซ้ำรอย“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ”พบ บ.ก่อแก้ว แกนนำ นปช.กับพวก กวาดเละงานรับเหมา ปตท. 91 ล้าน ใช้“นอมีนี”ถือหุ้นแทน สาวลึก 5 ปีย้อนหลัง ฟันรายได้กระฉูด 1,500 ล้าน

ต้องขอบคุณนักข่าวและสำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) ที่ทำข่าวเจาะลึกจนพบว่า นายก่อแก้วยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน ต่อป.ป.ช.ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อ2 สิงหาคม 2554 ระบุว่า

นายก่อแก้วมีเงินลงทุน 58,018,897.01 บาท จากทรัพย์สินทั้งหมด 82,936,233.60 บาท มีหนี้สิน 8,883,264.19 บาท โดยนายก่อแก้วระบุว่า หุ้น บริษัท นิวสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 112,500 หุ้นคิด
เป็นร้อยละ 37.50% ได้ให้ นายประคัลภ์ ธวัชปีติพงษ์(หุ้นส่วนธุรกิจ)ถือหุ้นแทน 37,250 หุ้น และ นายพงษ์ศักดิ์ วิญญูตระกูล(หุ้นส่วนธุรกิจ)ถือหุ้นแทน 37,250 หุ้น

บริษัท นิวสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นี้ ได้รับการว่าจ้างบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในช่วงปี 2551-2554 อย่างน้อย 4 ครั้ง วงเงินรวมถึง 91,580,600 บาท ได้แก่

• จ้างก่อสร้างอาคารและงานโยธา สถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลัก ส่วนขยาย วันที่ 3 กันยายน2551 จำนวนเงิน 35,990,000 บาท

• จ้างปรับปรุงระบบท่อทางและติดตั้งระบบผสมน้ำมัน GASOHOL คลังน้ำมันพระโขนง วันที่ 25 กันยายน 2551 จำนวนเงิน 33,450,600 บาท

• จ้างก่อสร้างปรับปรุงภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันปตท.สาขาลาซาล กทม. 24 ตุลาคม 2553 จำนวนเงิน12,140,000 บาท

• จ้างก่อสร้างปรับปรุงภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันปตท. เขตภาคเหนือแบบ Unit Price ConTract วันที่ 21 มิถุนายน 2554 จำนวนเงิน 10,000,000 บาท

รวมทั้ง 4 รายการเป็นเงินทั้งสิ้น 91,580,600 บาท

ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท นิวสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการก่อสร้างและปรับปรุงซ่อนแซมอาคาร จดทะเบียนวันที่ 30 มีนาคม 2536 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท
ตั้งอยู่ที่ 729/147 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ

ผลประกอบการ 5 ปี ย้อนหลังมีรายได้รวม 1,500,868,508 บาท กำไรสุทธิ 92,562,231 บาทแบ่งเป็น

ปี 2553 มีรายได้ 267,418,816 บาท กำไรสุทธิ 16,000,204 บาท สินทรัพย์ 189,235,059 บาท

ปี 2552 มีรายได้ 415,935,783 บาท กำไรสุทธิ 26,895,114 บาท

ปี 2551 มีรายได้ 337,690,976 บาท กำไรสุทธิ 18,343,819 บาท

ปี 2550 มีรายได้ 283,069,887 บาท กำไรสุทธิ 18,992,402 บาท

ปี 2549 มีรายได้ 196,753,046 บาท กำไรสุทธิ 12,330,692 บาท

เมื่อการไล่ล่าหาเงินในขุมทรัพย์ปตท.ฉาวโฉ่ แกนนำแดงทั้งสองเลยถูกตรวจสอบอย่างหนัก

น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคปชป. ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบกรณีสำนักข่าวอิศราระบุว่า บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ว่าจ้างบริษัทไทย คอนซัลแตนท์ แอนด์ พลับบลิกรีเลชั่น จำกัด เป็นที่ปรึกษามวลชนสัมพันธ์โครงการท่อส่งก๊าซ

โดยในการประกวดราคาเป็นที่ปรึกษาดังกล่าวมีอีก 2 บริษัท คือ บริษัทแมสมีเดีย แอนด์ คอนสตรักชั่น จำกัด และบริษัทแอคทีพ คอนสตรักชั่น จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกัน คือ 2991/2 ลาดพร้าว 101/3 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ

น.ส.มัลลิการะบุว่า "ทั้ง 3 บริษัทมีการถือหุ้นไขว้กันไปมา จึงอยากให้ตรวจสอบว่าการประกวดราคาดังกล่าว เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 และ 7 หรือไม่ รวมถึงการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายณัฐวุฒิ เป็นไปตามที่แจ้งหรือไม่ แม้นายนายณัฐวุฒิจะไม่มีชื่อถือหุ้นในบริษัทดังกล่าแล้ว แต่พบว่านายณัฐวุฒิ ยังเข้าออกบริษัทและมีรูปมายืนยันด้วย"

น.ส.มัลลิกายังย้ำว่า หา กกมธ.ตรวจสอบว่าผิดจริง จะดำเนินการเอาผิดต่อไป และในสัปดาห์หน้าจะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า นายณัฐวุฒิมีการซุกหุ้น และแจ้งบัญชีทรัพย์สินครบถ้วน ตามความเป็นจริงหรือไม่ หากพบว่า..มีความผิด จะดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป

นั่นเป็น“น้ำจิ้ม”ที่แกนนำแดงสวาปามกัน แต่มหาเศรษฐีทักษิณผู้เป็น“จอมทัพ”กองทัพแดง ที่สังหารทหารของกองทัพไทย อันมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวฯทรงเป็นจอมทัพนั้น ไม่สนใจ“น้ำจิ้ม”เล็กๆ น้อยๆ ใน ปตท.ครับ

เพราะ“เหลี่ยมร้าย”กับพวกไม่กี่คน ถือหุ้นมหาศาลในปตท.ผ่านนอมีนีไว้แล้ว แม้วที่รวยหลายแสนล้านบาท หลังเข้ามาเล่นการเมืองเพียงไม่กี่ปีนั้น ขุมทรัพย์ก๊าสและน้ำมันมูลค่ามหาศาล ของชาติไทยทั้งบนบกและในทะเลต่างหาก ที่ทำให้คนโลภมากอย่างแม้วทนไม่ไหว จนต้องเผยสันดานความเห็นแก่ได้และเห็นแก่ตัว ออกมาให้เห็นแบบโจ่งแจ้งเสมอ!

เมื่อทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 2544 ในปีเดียวกันก็มีการเซ็นทั้ง MOU 2544 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทับซ้อนในทะเลไทย-กัมพูชา และแถลงการณ์ไทย-กัมพูชา 2544 เพื่อเปิดทางให้ผู้มีอำ
นาจบางคนทั้งไทยและเขมร กับบริษัทน้ำมันของอเมริกา ที่แอบหาผลประโยชน์จากก๊าสและน้ำมันอีกด้วย

เพื่อให้งานด้านพลังงานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2546 ทักษิณได้ย้าย“หมอมิ้ง-พรหมมินทร์ เลิศสุรีย์เดช”คนสนิท จากรองนายกฯ มาเป็น รมว.กระทรวงพลังงาน จนงานลับๆบางอย่างถูกจัดการจนเรียบร้อยแล้ว

รัฐบาลทักษิณ 2 “หมอมิ้ง”จึงถูกดึงออกไปทำงานสำคัญในด้านอื่น นายวิเศษ จูภิบาล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และอดีตผู้ช่วย รมว.กระทรวงพลังงานยุค“หมอมิ้ง” ที่สนองงานทักษิณแบบสุดลิ่มทิ่มประตู จึงขึ้นเป็นรมว.กระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548 จนกระทั่งทักษิณโดนทหารทำรัฐประหารโค่นล้มลง..

รัฐบาลทักษิณล้มในปี 2549 แต่การหากินด้านธุรกิจพลังงานของทักษิณไม่เคยหยุด ยิ่งรัฐบาล“ยิ่งลักษณ์”ขึ้นครองเมือง ยิ่งฟันธงได้เลยว่า..หนีไม่พ้นที่ชาติไทยจะต้องเสียดินแดนบางส่วนให้เขมร เพื่อแลกกับผลประโยชน์ก๊าสและน้ำมัน ให้ผู้มีอำนาจที่เป็นคนไทย-คนเขมร-คนต่างชาติอย่างแน่นอน

วันนี้..ขุมทรัพย์ก๊าสและน้ำมันมูลค่ามหาศาลในไทย-กัมพูชา จึงบานปลายเพราะถูกทึ้งด้วยคนชื่อเก่า-ชื่อใหม่-เรื่องเก่า-เรื่องใหม่ อย่าง ทักษิณ-ฮุนเซน-ยิ่งลักษณ์-อ้ายปึ้ง-อารักษ์-อเมริกา-โอบาม่า-ฮิลลาลี-เชฟรอน-อู่ตะเภา-นาซ่า ฯลฯ ลงท้าย“วีซ่าทักษิณ”ก็เลยโผล่มาด้วย

เพียงเพื่อผลประโยชน์แห่งตนในเรื่องอำนาจ-ก๊าส-น้ำมัน ฯลฯ ทักษิณถึงกับดึงอเมริกามาร่วมไล่ล่า ทั้งก๊าส-น้ำมัน-อู่ตะเภา ฯลฯ ทำให้ชาติไทยพัวพันไปกับยุทธศาสตร์ การแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์โลกของอเมริกา!

แน่นอน..หลังจากนี้ชาติและคนไทยจะต้องเผชิญปัญหาด้านลบ กับประเทศที่ชื่อจีน-รัสเซีย-อินเดีย-อิหร่าน ฯลฯ อย่างหนีไม่พ้น เพราะทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-ได้นำชาติและคนไทย ไปยืนในพื้นเสี่ยงภัยที่อันตรายอย่างยิ่งยวดแล้วนั่นเอง

นี่คือ..ผลงาน“ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน”ของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ครับ!